ไฮโซแชมป์ จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์ ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน ดีใจหนักมาก หลังแฟนสาว เจนี่ เจนิลา คลอดลูกชายน้องแอสตั้น ตั้งแต่วันที...
ไฮโซแชมป์ จิรัฏฐ์ เพชรนันทวงศ์ ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หมื่นล้าน ดีใจหนักมาก หลังแฟนสาว เจนี่ เจนิลา คลอดลูกชายน้องแอสตั้น ตั้งแต่วันที่ 1
สิงหาคมที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และตอนนี้คุณแม่พร้อมคุณลูกได้กลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหนุ่มแชมป์และสาวเจนี่เปิดใจให้สัมภาษณ์พร้อม
กันว่า
“พอคลอดน้องแอสตั้นแล้วเจนี่เองก็รู้สึกแฮปปี้มากมันเป็นความรู้สึกผูกพันที่เราอธิบายไม่ถูก เพราะตอนแรกไม่คิดมาก่อนว่าจะมีลูก ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรหันไปก็เจอ
เขาแล้ว ตอนที่น้องคลอดหนัก2.84 กิโลตอนที่หนูท้องก็ไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไหร่ เพราะตอนนั้นน้ำหนักขึ้นมา 9 -10 กิโลเอง ตอนที่ท้อง พี่แชมป์จะให้ทานแต่ของที่
มีประโยชน์ให้ทานปลา ดื่มนม เพราะตอนนั้นพี่แชมป์จะไปอยู่ที่มัลดีฟส์เขาก็จะโทรมาสั่งให้กินปลาเยอะๆ ส่วนตัวแล้วเจนี่เป็นคนชอบทานส้มตำมาก แต่นี่โดนสั่งห้าม
คือทุกมื้อจะต้องมีปลา”
“โชคดีที่คุณแม่ของพี่แชมป์ให้คำปรึกษาและคอยแนะนำเจนี่ตลอด เขาบอกว่าอย่าเครียดเพราะตอนแรกหนูกังวลมากว่าลูกออกมาแล้วจะเลี้ยงยังไงเพราะเราก็ไม่
เคยมีลูกมาก่อน ตอนนี้อายุ 21ตอนนี้ก็ขอเลี้ยงลูกก่อนอยากทุ่มเทให้ลูกเต็มที่ ปีหน้าหนูวางแพลนกลับไปเรียนต่อ เพราะตอนนั้นหนูดรอปไว้ กลัวเหมือนกันว่าปีหน้า
พอลูกเริ่มโตเราจะติดเขาไม่อยากห่าง แต่ตั้งใจอยากจะกลับไปเรียนให้จบ หลังจากนั้นก็จะช่วยกิจการของพี่แชมป์ พี่แชมป์บอกจะพาเจนี่กับลูกอยู่ที่มัลดีฟส์ด้วย คือ
ไปกลับบ้าง เพราะพี่แชมป์จะต้องไปดูแลกิจการรีสอร์ทที่โน่น ช่วงนี้พี่เขากำลังทำรีสอร์ทอยู่ แล้วที่โน่นมันไม่ค่อยมีสัญญาณ ถ้ารีสอร์ทสร้างเสร็จทุกอย่างมันน่าจะ
ลงตัวกว่านี้ เรื่องสัญญาณรวมถึงความสะดวกสบาย”
ส่วนไฮโซแชมป์รับว่า
“ตอนนี้รีสอร์ทอยู่ในช่วงกำลังก่อสร้างขนวัตถุดิบไปที่มัลดีฟส์ เฉพาะค่าโลจิสติกส์นี่ประมาณ40เปอร์เซ็นต์ของโปรเจกต์ที่สร้างมี 2 โซนคือเกาะส่วนตัวนี่คือสร้างไว้
อยู่เอง เป็นวิลล่าประมาณ 5 หลังมีห้องใต้น้ำ ส่วนอีกเกาะคือรีสอร์ทลงทุนไปตอนนี้ก็หลายพันล้าน เพราะที่โน่นการทำรีสอร์ทมันขึ้นหลักพันหมดเลย มันแพงเรื่อง
การขนย้ายวัตถุดิบอย่างซีเมนต์ที่โน่นก็ไม่มี อุปกรณ์การก่อสร้างต้องนำเข้ามาทุกอย่างพวกรถตักรถแบ็คโฮนี่ก็ต้องขนส่งมาจากไทยซึ่งใช้เวลานานกว่าอุปกรณ์ที่สั่งจะ
มาถึงแล้วจะได้ลงมือทำ”
“มีอยู่เกาะหนึ่งที่ผมต้องดูดทรายขึ้นมาเพื่อถมทะเลเหมือนที่ดูไบที่ทำ2 เกาะคือเกาะหนึ่งผมตั้งใจสร้างไว้อยู่เอง ส่วนอีกเกาะก็เอาไว้ขายหรือให้คนเช่า การที่ผม
เลือกที่มัลดีฟส์ คือมันเป็นประเทศที่สวย น้ำใส และทรัพยากรที่โน่นมันครบมาก เวลาผมไปอยู่ที่โน่นจะกินแต่หูฉลาม ปลาเก๋า เป๋าฮือ ล็อบสเตอร์ บอกลูกน้องไป
รอครึ่งชั่วโมงก็ได้กินแล้ว คือเลือกได้เลยเหมือนอยู่ในตู้ปลาไม่ได้เลี้ยงในกระชังเหมือนบ้านเรา วิลล่าที่วางไว้มีทั้งอยู่ในน้ำและบนเกาะ แต่ที่วิลล่าของผมจะมีตัว C
ที่นั่นจะมีห้องใต้น้ำ อาจจะเป็นห้องนั่งเล่นรวมถึงห้องกินข้าว”
“ส่วนงานที่เมืองไทยช่วงนี้บางอย่างก็ให้น้องชายช่วยๆ ดูไม่ว่าจะเป็นโรงแรมรวมถึงธุรกิจตัวเอง เพราะผมก็ไปทุ่มเททุกอย่างที่มัลดีฟส์หมดที่อยากให้เจนี่ไปอยู่ที่โน่น
ด้วย เพราะเห็นว่า เขาเก่งทางด้านการขายก็ตั้งใจอยากให้ไปช่วยขายวิลล่าที่มัลดีฟส์ เพราะที่กำลังสร้างอยู่มีทั้งปล่อยให้คนเช่าและขายด้วย อีกปีครึ่งโครงการก็น่า
จะเรียบร้อย เราทำสนามบินส่วนตัวไว้ด้วย ถ้าสนามบินเสร็จผมก็สามารถบินกลับไปกลับมาได้ เพราะมันใช้เวลาแค่ 4 ชม. เอง ส่วนของรับขวัญน้องแอสตั้นก็คงจะ
เป็นวิลล่าที่มัลดีฟส์แหละครับ เพราะผมตั้งใจอยากทำให้ดีที่สุดเพื่อลูกกับครอบครัว ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ให้ทุนการศึกษาแอสตั้น 2 ล้านบาท คุณแม่บอกว่าเป็นเงิน
ขวัญถุงหลาน”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก gossipstar.mthai
COMMENTS