#ยายเฒ่าวัย 70 แอบเปิดถังขยะที่ลูกสะใภ้ทิ้งตอนดึก แต่พอเห็นว่าข้างในเป็นอะไร ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา!?

คำว่า “ครอบครับ”เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงเวลามีความสุข มีพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมหรือรวมไปถึงมี ปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอา อยู่รวม...

คำว่า “ครอบครับ”เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงเวลามีความสุข มีพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมหรือรวมไปถึงมี ปู่ย่าตายายพี่ป้าน้าอา อยู่รวมกันสนุกสนาน แต่อย่างที่รู้กันว่าเมื่อความสุขมันย่อมมี “ความทุกข์” เสมอกัน เพราะคนเรามีความรู้สึกแตกต่างกันไป โดยเฉพาะปัญหา “แม่ผัวกับลูกสะใภ้” ที่ทำให้ผู้ชายต้องปวดหัวกันตลอด แต่เรื่องราวนี้อาจจะทำให้คุณน้ำตาร่วงได้ เมื่อ “ลูกสะใภ้”ได้ทำเรื่องไม่คาดฝันกับ “แม่ผัว” ซึ่งยากเกินกว่าที่ใครจะรับ เพราะมันไม่มีเหตุผลอย่างมาก ซึ่งเรื่องราวมีอยู่ว่า

“ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน มีคุณย่าวัย 70 ปี ลูกชายลูกสะใภ้และหลานชายที่ชื่อเซียงเซียง อายุ 6 ขวบ คุณยายทำอาชีพขายไข่ไก่อยู่ข้างถนน ทุนของไข่ไก่ที่คุณย่ารับมาคือ0.5หยวนต่อฟอง แล้วเธอขายหนึ่งหยวนต่อฟอง ได้กำไรเพียงนิดเดียวเอง สำหรับลูกชายและลูกสะใภ้ของคุณย่าเป็นคนงานทั้งคู่ หลานชายกำลังเข้าเรียนประถมชั้นหนึ่ง ”

“วันหนึ่งหลังจากที่หลานชายเลิกเรียนกลับมาถึงบ้าน เมื่อคุณยายได้ยินเสียงประตูคุณย่าก็รีบวิ่งจากห้องครัวเข้าไปในห้อง แล้วบอกกับหลานชายว่า “เซียงเซียงมาหาย่า ย่าได้ซื้ออะไรบางอย่างให้หลานนะจ๊า” หลานชายก็เลยตามคุณย่าไปดู เห็นคุณย่าได้ถือเสื้อผ้าชุดใหม่ชุดหนึ่งออกมาพร้อมรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “มาดูซิ เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ย่าซื้อมาให้ พอดีวันเสาร์หน้าก็จะเป็นวันเกิดของหลานแล้ว นี่แหละ ของขวัญวันเกิดที่ยายซื้อให้ บนเสื้อยังมีตัวการ์ตูนที่หลานชื่นชอบนะ” หลานชายก็เลยรีบลองใส่ด้วยความดีอกดีใจ และชอบมากจนไม่อยากจะถอดออกมา”

“แต่ตอนเย็นลูกสะใภ้ได้กลับมาถึงบ้านพอได้เห็นแล้วก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที เพราะเสื้อผ้าที่คุณย่าซื้อให้เด็กนั้นคุณภาพไม่ค่อยดี และยังมีกลิ่นด้วย แต่ลูกสะใภ้ก็ไม่ได้พูดอะไร หลังอาหารเย็นพอถึงเวลาอาบน้ำให้เด็ก ลูกสะใภ้กล่าวว่า “เซียงเซียงรีบถอดเสื้อผ้านั้นออกมา ที่บ้านมีเสื้อผ้ามากมาย ชุดนี้เก็บไว้ก่อน” หลังจากที่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากลูกสะใภ้ คุณย่าก็เงียบไปและไม่ได้พูดอะไร ”

เมื่อถึงตอนกลางดึกพอทั้งครอบครัวเข้านอนหมด คุณย่าแอบลุกขึ้นมาไปเปิดประตูเบา ๆ แล้วออกไปหน้าบ้าน แล้วไปแกะถุงขยะเพื่อหาเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอซื้อให้หลานชาย เพราะว่าลูกสะใภ้ไม่ชอบก็เลยโยนทิ้งในถุงขยะ คุณย่าได้แต่แอบเช็ดน้ำตาแล้วแอบเอาเสื้อผ้าชุดนั้นเข้าไปในบ้าน เหตุการณ์นี้ลูกชายของเธอมาเห็นเข้าพอดี จนทำให้ลูกชายของเธอก็น้ำตาไหลด้วยความเศร้าใจ

วันถัดไปคุณย่าก็ออกไปขายไข่ไก่ตามปกติ ลูกชายของคุณย่าได้ปลุกหลานชายขึ้นมาและกล่าวว่า “วันนี้เราแอบไปดูคุณยายขายไข่กันดีมั้ย?” หลานชายรีบพยักหน้า ดังนั้นสองคนแอบตามคุณย่าไป และไปซ่อนตัวอยู่ในร้านน้ำชาที่อยู่ข้างๆคุณยาย เพื่อแอบดูคุณย่าดยผ่านหน้าต่าง

“ตลอดเวลาในช่วงเช้า คุณย่าได้ขายไข่เพียง30 ฟองเท่านั้น ใกล้ถึงเที่ยงแล้ว คนที่หาซื้อผักก็ค่อยๆน้อยลง เห็นคุณย่าเริ่มเก็บของเตรียมจะกลับบ้าน แต่คุณย่าก็ไม่ได้กลับบ้านทันที เห็นเธอเดินไปร้านขายเสื้อผ้าของเด็กร้านหนึ่ง ทั้งพ่อและลูกชายก็รีบแอบตามไปดู”

เมื่อคุณย่าเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้า แล้วเอาเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอซื้อให้หลานชายออกจากถุงพลาสติก และบอกกับเจ้าของร้านว่าอยากจะขอคืน เจ้าของร้านดูแล้วก็รีบปฏิเสธว่า “คืนไม่ได้ มันสกปรกแล้ว” คุณยายก็พูดว่า “ถ้าฉันเอากลับไปซักสะอาดแล้วคืนได้มั้ย?” พนักงานขายก็ตอบว่า “ไม่ได้”

คุณย่าร้องไห้ไปและกล่าวว่า “ฉันต้องขายไข่สองวัน จึงจะซื้อเสื้อผ้านี้ได้ มันแพงมากอย่างนี้ฉันคิดว่าพ่อแม่ของเด็กจะพอใจ แต่…. ” เจ้าของร้านตอบว่า “ถ้าฉันคืนเงินให้คุณ ฉันก็ขาดทุนแล้วสิ ฉันเปิดร้านก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะ เงินที่หามาก็ยากลำบากพอสมควร” คุณย่าเสียใจมากก็เลยนั่งลงบนพื้นและร้องไห้ขึ้นมา

เมื่อลูกชายของคุณย่าเห็นเรื่องราวทั้งหมดแล้วลูกชายของคุณย่าเลยรีบสั่งกับหลานชายว่า “ลูก รีบไปเอาเสื้อผ้าชุดนั้นมาใส่” หลานชายไม่ได้พูดอะไรรีบถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ลงมา แล้วเดินเข้าไปเอาเสื้อผ้าที่สกปรกที่อยู่ในมือของคุณยายมาใส่ พร้อมพูดกับคุณย่าว่า “ย่า ไม่ต้องคืนนะ หนูชอบมันมาก”

ลูกชายของคุณย่าก็รีบเดินเข้าไปหาคุณยายและช่วยพยุงคุณย่าลุกขึ้นมา พร้อมกับเอาเครื่องมือสำหรับขายไข่ของคุณย่ามาถือในมือตนเองและพูดกับคุณยายว่า “แม่ จากนี่ไปแม่ไม่ต้องออกมาขายไข่อีกแล้วนะ จากนี่ไปผมจะเหมาซื้อทั้งหมด”