วันที่ 13 ส.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 3/1 ถนนทุ่งใหญ่-พระแสง หมู่ 3 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายสุวิทย์ ไกรนรา ...
วันที่ 13 ส.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 3/1 ถนนทุ่งใหญ่-พระแสง หมู่ 3 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายสุวิทย์ ไกรนรา อายุ 72 ปี ผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.นครศรีธรรมราช เป็นลูกคนหัวปีของนายหวน ไกรนรา อดีตกำนัน ต.ท่ายาง เป็นประธานในพิธีทำบุญประจำปี ให้กับพ่อ แม่ และบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยมีการนัดหมายเอาไว้ล่วงหน้าทำให้ภายในงานมีเครือญาติ ๆในตระกูล “ไกรนรา” และลูกหลานตระกูลที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
นายเสรี สิงห์ไชย อดีต ผอ.โรงเรียนคล่องหมื่นเพชรอนุสรณ์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นญาติของเจ้าภาพคนหนึ่งเปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (12 ส.ค.) ในขณะที่กำลังเตรียมสถานที่จัดงานอยู่นั้นได้เกิดฝนตกอย่างหนัก แต่ที่บ้านร้างเป็นบ้านเก่าของนายหวน ไกรนรา อดีตกำนันซึ่งเป็นบ้านที่สร้างด้วยไม้ตะเคียน ไม้ยางนา และไม้หลุมพอ สร้างแบบโบราณยกสูงจากพื้นดินประมาณ 2 เมตร หากนับถึงปัจจุบันบ้านหกลังนี้มีอายุประมาณ ประมาณ 80 ปี ซึ่งอยู่ข้าง ๆ สถานที่จัดงานทำบุญ และปิดตายมานานเกือบ 10 ปีตั้งแต่นายหวน ไกรนรา เสียชีวิต ในขณะนั้นท่านอดีตกำนัน อายุ 85 ปี ส่วนนางกิ้ม ไกรนรา ภรรยา ก็ได้เสียชีวิตไปก่อนนายหวน 10 ปี ด้วยอายุ 75 ปี
“บ้านหลังนี้จึงได้ปิดตายตลอดมาไม่มีใครอยู่อาศัย ญาติ ๆ และลูกหลานออกไปทำงานและมีครอบครัวในต่างจังหวัดไกลกันหมด แต่จะกลับมาทำบุญที่บ้าน เลขที่ 3/1 หมู่ 3 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราชเป็นประจำทุก ๆ ปี แต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้มีเหตุการณ์แปลกประหลาดชวนขนหัวลุกขึ้นหลายอย่าง โดยครั้งแรกได้ยินเสียงมีคนเดินอยู่ภายในบ้านร้าง และต่อมาได้ยินเสียงคล้าย ๆ คนตำหมากรัว ๆ ติดต่อกัน สร้างความแปลกใจให้กับลูกหลานเป็นอย่างมาก จึงชวนกันเดินไปตรวจสอบ และต้องตกใจสุดขีด เพราะพบหน้าต่างของบ้านที่ปิดใส่สลักกลอนอย่างแน่นหนามานาน กลับเปิอดออกมาเองจำนวน 2 บาน จนลูกหลานที่เดินไปตรวจสอบต้องหันมามองหน้ากันก่อจะตัดสินใจหันหลังเดินถอยหนีกลับออกมาอย่างรวดเร็ว”
นายเสรี สิงห์ไชย กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆลูกหลานหลายคนที่ประสบเหตุจึงเล่าให้ญาติ ๆ คนอื่น ๆ ฟัง และพากันวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นาน ๆ ส่วนใหญ่เชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นวิญญาน ของนายหวน ไกรนรา อดีตกำนัน และนางกิ้ม ไรนรา ภรรยา รับรู้และกลับมาที่บ้านเก่าเพื่อรอรับบุญกุศลจากลูกหลานที่นัดกันมารวมตัวทำบุญประจำปีตามประเพณี ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการทำบุญประจำปีทุกคนต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับไปทำงานหรือกลับบ้านของตัวเองในแต่ละพื้นที่ บ้านร้างของนายหวน ไกรนรา ก็จะถูกปิดตายจนอีก 1 ปีข้างหน้า ลูกหลานจึงจะกลับมาพบกันและร่วมกิจกรรมทำบุญประจำปีตามประเพณีกันอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการรวมญาติทำบุญให้กับนายหวน ไกรนรา อดีตกำนัน ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ พร้อมนางก้ม ไกรนรา ภรรยาและบรรพบรุษที่ล่วงลับไปแล้วในแต่ละปีไม่เคยมีปรากฏการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน จึงเชื่อว่าในปีนี้นายหวน และนางกิ้ม อาจจะมารับบุญกุศลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะได้ไปผุดไปเกิด ซึ่งก่อนถึงวันกำหนดทำบุญประจำปี ได้เกิดเรื่องชวนขนหัวลุกมาก่อนแล้วหลายครั้ง เช่น ในตอนกลางดึกของหลายคืนที่ผ่านมาคนขับรถยนต์ รถ จยย. บนถนนสายทุ่งใหญ่-พระแสง เมื่อมาถึงหน้าบ้านร่างหลังดังกล่าวเครื่องยนต์จะดับไปเองเฉย ๆ
และหลายคนยังได้ยินเสียงนาฬิกาเรือนไม้แบบโบราณในบ้านของนายหวน ซึ่งชำรุดใช้การไม่ได้มานับ 10 ปี แล้วดังบอกเวลาออกมาจากในบ้าน เป็นต้น ทำให้ลูก ๆ หลาน ๆ ที่มาร่วมทำบุญในครั้งนี้ต่างบนบานกันว่า “หากวิญญาณนายหวน-นางกิ้ม” จะไปผุดไปเกิดก็ขอให้ดลบันดาลโชคลาภให้กับลูกหลานบ้าง โดยจะนำเลขที่บ้านที่มาร่วมทำบุญ วันที่ทำบุญ รวมทั้งอายุของนายหวน เมื่อครั้งยังมีชีวิต 85 ปี และอายุนายหวนที่นับรวมตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน 95 ปีมาทุ่มแทงหวยใต้ดินและซื้อลอตเตอรี่กันอย่างคึกคักเป็นพิเศษ
Cr. siamnews
COMMENTS